วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องสั้น ลำดับที่ 6 : สวนหลังบ้าน

ลมกรรโชก...
หอบพัดเอาใบไม้ปลิวขึ้นไปในอากาศ...
เหนือหลังคาบ้านหลังใหม่ของครอบครัวคุณแม่เลี้ยงเดียว
ลิลลี่ กำลังยุ่งอยู่กับการขนข้าวของ
เธอได้ตกลงใจซื้อบ้านหลังใหม่
หลังจากที่ ลิลลี่ ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
นั่นทำให้ ทิม ลูกชายคนเดียวของเธอ
ต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคัน
เพื่อย้ายมาเมืองใหม่ ตามที่เธอต้องการ

"ทิม... ไม่เอาน่า! ลงมาจากรถได้แล้ว..."
ลิลลี่ เรียกลูกชายหัวดื้อของเธอให้ลงมาจากรถ
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว
เหลือเพียงทิม ที่ยังคงนั่งกอดเข่าอยู่เบาะหลัง
สีหน้าที่ไม่พอใจ ปรากฏชัด...
"แม่.. น่าเบื่อ..." ทิมพึมพำ อยู่คนเดียว
เขาก้าวเท้าลงจากรถ ด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง
เด็กผู้ชาย อายุ 13 ปี รูปร่างอวบ
ใส่หมวกเบสบอลของทีมแยงกี้ เงยหน้ามองดูบ้านหลังใหม่
"ไม่เลวนี่ มีสวนด้วย..." ทิมคิด
เขาเดินเข้าบ้านพร้อมกับเป้ ใบโปรดของเขา
เป้นำโชคสีแดงที่ใส่สารพัดเครื่องมือเอาไว้
แม้เขาจะไม่พอใจที่ต้องจากเพื่อนมา
แต่ต้องยอมรับว่าบ้านนี้ดีกว่าห้องเช่าแคบๆ ที่เขาเคยอยู่
เขาเริ่มสำรวจบ้านหลังใหม่ ตามประสาเด็กเล่นซนทั่วไป
"ห้องนอนลูกอยู่ด้านบนนะจ๊ะ ทิม
หน้าต่างของลูกเปิดไปเห็นสวนหลังบ้าน แม่จ้างคนงานให้เขามาจัดสวนสวยๆไว้ให้แล้วนะ"
ลิลลี่ พูดเอาใจลูกชาย
ทันทีที่เห็นความไม่พอใจของทิมลดลง
ทิม เดินออกทางประตูหลัง
เพื่อสำรวจสวนหลังบ้านที่แม่บอก

ประตูหลังบ้านเปิดอ้า...
เผยให้เห็นสภาพของสวนหลังบ้าน
มันยังคงมีกระถามต้นไม้วางให้เห็นอยู่บ้าง
แต่ส่วนใหญ่แตกหักจนใช้การไม่ได้
ทิมเดินเท้าเปล่าลงไป เพราอยากสัมผัสกับพื้นหญ้า
สระน้ำพลาสติก สภาพเยินๆ สกปรก 
ถูกวางกองรวมเอาไว้ ตรงกำแพงหลังบ้าน... 
"คงเป็นของใครซักคน..." ทิมพูด
"บ้าเอ้ยย!" ทิมเดินเตะบางอย่าง...
มันเหมือนเป็นของแข็งๆ แต่ไม่ใช่ก้อนหิน
ทิม คุกเข่าลงตรงพื้นหญ้า บางอย่างถูกปกคุลมมานาน
"เห้ยยย นี่มันเปิดได้นี่.." ทิม มองดูไม้กระดานแผ่นหนา
ที่ถูกหญ้าปิดคลุมานานนับปี เขาลองแง้มมันดู
"เจ๋งง ไม่ได้ล็อคนี่!" ทิมดีใจที่พบของเล่นใหม่
เขาวิ่งกลับเข้าไปหยิบเป้ สีแดงนำโชคของเขา
ในนั้น มีทุกสิ่งที่ต้องการ ทิมหยิบไฟฉายออกมา
เขาส่งลงไป และเห็นบันไดทางลงที่ทอดยาวไปข้างล่าง
"แม่ต้องไม่รู้ว่ามีมันแน่ๆ..." 
ทิม ตั้งใจจะเก็บทางเข้านี้ไว้เป็นความลับส่วนตัว เขาเอาหญ้ามาปิดไว้ที่เดิม และเดินเข้าไปในบ้าน
ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่อยากให้มายุ่งกับมัน
"แม่ ผมจะจัดสวนหลังบ้านเอง
ไม่ต้องจ้างใครมาทำนะฮะ"
ทอม พูดระหว่างทานอาหารเย็น
ลิลลี่ ประหลาดใจกัยคำพูดของ ทิม
"อ้าวว! จริงเหรอจ๊ะ ทำไมละ"
"ผมว่าผมชอบมัน" ทิม จ้องมองแม่
"โอเคจ๊ะ ตามใจลูกเลย ทิม" ลิลลี่ ตอบตกลง
เธอคิดว่าอย่างน้อยๆ มันคงทำให้ ทิม เลิกต่อต้านเธอซักที
ทุกอย่างดูเรียบร้อยและผ่านไปด้วยดี...

ลิลลี่... หลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยอ่อน
ทิม เดินลงไปเพื่อดูสวนหลังบ้านของเขาอีกครั้ง
มันยังคงอยู่ดี ประตูลับที่เขาพบ
ทิมเตรียมไฟฉาย และของอีกสองสามอย่าง
เขาเปิดประตูออกและไต่ลงไปตามบนไดที่ทอดตัวเบื้องล่าง
เมื่อลงมาจนสุดทาง
ทิมแหย่เท้าลงไปแตะกับพื้นด้านล่าง
มันน่าจะลึกซัก 10 กว่าเมตรได้
ไฟฉายถูกเตรียมไว้ในมือ
เมื่อมันทำหน้าที่ ทิมก็ได้พบกับห้องกว้างๆ
จุคนได้ประมาณ 15 - 20 คน
ห้องลับฝังตัวอยู่ใต้บ้านของเขา
พระเจ้า นี่มันสุดยอดจริงๆ...
ทิมเริ่มการสำรวจอีกครั้ง

ครืดดดด... ครืดดดด.... ครืดดด.....
เสียงลากโซ่ดังมาจากด้านหลังของเขา
ทิมหันขวับไป พร้อมกับไฟฉายในมือ
ความเงียบ.... ปกคลุมทั่วบริเวณ
"บ้าน่า ลมจากด้านบนคงพัดเข้ามา..." 
ทิมปลอบตัวเอง
ทิม มาหยุดตรงเก้าอี้ หน้าตาประหลาดตัวหนึ่ง
มันมีสายรัดข้อมือและข้อเท้าติดอยู่
พนักพิงเป็นหนามแหลม
และมีหมวกครอบ อยู่ด้านบน..
"เครื่องทรมาณ"
ใช่แล้ว.... เขาจำมันได้จากหนังฆาตกรรมที่ดูบ่อยๆ
"เจ้านาย.... ปลดปล่อยเราที ปลดปล่อยเรา..."
เสียงบางอย่างแว่วมากระทบโสตประสาทของ ทิม
มือเขาเย็นขึ้นอย่างประหลาด มันชาไปหมด
"สะ เสียง เสียงใครน่ะ!?"
ครืดดดดด... ครืดดดด.. ครืดดดด...
เสียงลากโซ่ดังอีกครั้ง.... แผ่นไม้ด้านบนส่งเสียงดัง ปึ้งงงง!
ไฟฉายของทิมหลุดจากมือ มันตกกระแทกกับพื้น
ทุกอย่างมืดสนิท พร้อมกับเสียงร้องของทิม
"เห้ยยยย....!!!"

ในความมืดที่แสนน่ากลัว
ทิม รู้สึกถึงมือหยสบกระด้างที่หนาและใหญ่
ของผู้ชายประมาณ 3 - 4 คน 
พวกมันจับแขนขาและลำตัวของเขาไว้
"เห้ยย จะทำอะไรวะ ปล่อยฉันนะ ปล่อย!!"
ทิม ตะโกนไปในความมืด
เท้าของเขาเตะไปมาในอากาศ
กลิ่นสาปสางโชยใาแตัจมูกของทิม
กลิ่นไหม้ของผิวหนัง
กลิ่นสาปของคนที่ไม่ได้แตะต้องน้ำอาบมาเป็นแรมปี


พึ่บบบ....
ไฟฉายของทิมสว่างขึ้น มันหันมาทางเขาพอดี
ทิมรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนบางอย่าง
แผ่นหลังของเขารู้สึกถึงของแหลมคน
โอ๊ะ!! เขาขยับขาไม่ได้ ทิม ดิ้นรนยิ่งขึ้น
เหมือนบางอย่างต้องการให้ทิมเห็นอะไรชัดเจนยิ่งขึ้น
จะเกียงไฟที่ไม่ถูกจุดมานาน ติดพรึบขค้นมาพร้อมกัน 4 อัน
มันส่องสว่างมากพอทั่วบริเวณห้องนั้น
เงาตะคุ่มๆ ของบางอย่างวูบวาบผ่านหน้า ทิม
เสียงกระซิบกระซาบดังแว่วมาเป็นระยะ
พวกมันกำลังตกลงใจจะทำบางอย่างกับ ทิม...

ในห้องนอนของ ลิลลี่...
เธอสะดุ้งตื่นขึ้น เพราะความฝันประหลาด
ในฝันเธอเห็นชายผิวดำ ถูกเฆี่ยน ถูกโบยด้วยแส้
อยู่ในบ้านของเธอ พวกเขาแต่งกายครึ่งท่อน ไม่มีเสื้อผ้า
ตามตัวเปรอะไปด้วยฝุ่น และเศษดิน
ชายคนหนึ่งวิ่งหนีจากผู้คุมแล้วพุ่งเข้ามาหาเธอ
เหงื่ิ้ม็ดเล็กผุดพราวอยู่บนใบหน้า
ลางสังหรณ์บสงอย่างบอกเธอให้ไปดู ทิม
แต่แขนและขาของเธอขยับไม่ได้
เงาดำๆกำลังกดทับตัวของเธออยู่
เธอไม่มีแม้แต่เสียงร้องขอความช่วยเหลือ
มือหยาบกร้านมือหนึ่งลูบไล้ไปตามแก้มและลำตัวของเธอ
ลิลลี่ บิดตัวไปมาด้วยความหวดกลัว...
เธอเริ่มหายใจติดขัด มือคู่นั้นบีบรัดที่คอของเธอ...!!

ครืดดดด..... ครืดดดดด.... เสียงโซ่ล่ามดังขึ้น
ทิม หันไปมารอบตัว ไฟสลัวๆ จากตะเกียงทำให้เขามองไม่ค่อยชัดนัก
"แกเป็นใครต้องการอะไร กันแน่?"
ทิม ตะโกนท่ามกลางความเงียบในห้องลับนั้น
"อ๊ากกกกกกกกซ์..." เสียงร้องครวญครางดังขึ้น
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทิม ทำให้เขาอ้างปากค้าง
ชายผิวดำร่างใหญ่ เนื้อตัวและแผ่นหลังเต็มไปด้วยเลือด
และรอยแส้สดใหม่ เขากระเสือกกระสนคลานเข้ามาหาทิม
ทิมเบือนหน้าหนี สายตาเขาปะทะเข้ากับใบหน้า
อันผิดรูปของชายอีกคน มันเหมือนกับใบหน้าของเขา
ถูกกัดกร่อนด้วยน้ำกรดความเข้มข้นสูง...
"เราอยู่ที่นี!... เราตาย... ที่นี่"
ชายที่มีใบหน้าเน่าเฟะ พูดกับทิม ในระยะประชิด
"ท่านเป็นเจ้านายใหม่หรือ..?" มันแสยะยิ้มถามทิม
ทิมส่ายหน้าที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
"ปะ เปล่าๆๆ ฉันไม่ใช่..."
"ท่านทิ้งพวกเรา ท่านบอกให้เรารอ..."
มันพูดต่อไป... จงดูซะ!"
มันชี้นิ้วที่หงิกงอไปยังบันไดทางขึ้น
ทิม เห็นเหล่าทาสผิวดำ ชายหญิง ยื้อแย่งจะปีนขึ้นไป
บ้างร้องตะโกน บ้างเหยีบหัวกัน
ทุกคนอยากมีชีวิตรอด แต่แล้วน้ำมันสีดำถูกเทราดลงมา
จากประตูทางเข้าด้านบน เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่วห้องลับ
ควันตลบอบอวน กลิ่นไหม้ของเนื้อมนุษย์คละคลุ้ง
พวกเขาคลานเข้ามา สายตามุ่งมายัง ทิม
ที่ถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ทรมาน...
เวลา... สำหรับทิม เหมือนนานชั่วชีวิต...

ในห้องนอน...ของ ลิลลี่
เธอกำลังตาเหลือกอยู่บนที่นอน
ลิลลี่ บิดตัวไปมา ด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอีกครั้ง
เธอพลิกตัวกลับให้ตกเตียง...
สำเร็จ!! เธอลุกขึ้นได้ ลิลลี่ วิ่งออกไปจากห้อง
ปั้งงงงง.... ประตูปิดกระแทกตัว ลิลลี่ ให้กระเด็นกลับมา
เหลือทางรอดเดียวแล้วในวินาทีนั้น
หน้าต่างบ้านที่เปิดอ้าอยู่...
ครืดดดดด... ครืดดดดด... ครืดดดด..
้เสียงโซ่มาหยุดอยู่หน้าประตูห้อง...
พร้อมกับลิลลี่ ที่ถูกบางอย่างจิกผมแล้วกระชากก!
ประตูห้องเปิดออกกว้าง...
เผยให้เห็นที่มาของเสียงลากโซ่อันชวนสยองนั่น...!!

ทิม... อยู่บนเครื่องทรมาน..
หลังของเองกรีดไปมากับพนักพิงที่แหลมคม
เสื้อผ้าขาดวิ่น เลืิดไหลออกมาจากบาดแผล
แกร๊กก... แกร๊กกก... หมวกเหล็กถูกคลุมที่หัวของทิม
ชายผิวดำหน้าเฟะ หมุนกลไก ของเก้าอี้
หมวกเหล็กเริ่มบีบรัด...
"อ๊ากกกซ์" ทิมร้องอย่างโหยหวน
มันหนักหนาเกินกว่าเด็กจะรับไหว...
ทิม ต้องพยายามอีกครั้ง เขากำลังจะหมดแรง
เขาลองเตะขาออกไป สำเร็จ.... สายรัดข้อเท้าขาดออกจากกันแล้วหนึ่งข้าง
ทิมจัดการกับตัวเอง เครื่องพันธนาการหลุดทีละอย่าง
เหลือเพียงหมวกเหล็กที่บีบรัด
ทิม เอื้อมมือไปหมุนกลไกนั่น
"โอ้ยยย อีกนิดด อีกนิดเดียว"
ฉับบบบบบ!! เคียวเหล็กปริศนาสับลงบนข้อมือของทิม
"โอ้ยยย!.." ทิมร้องอย่างเจ็บปวด
ข้อมือของเขาห้อยต่องแต่งเกือบขาดออกจากกัน
ทิม ไม่ละความพยายาม เขาใช้มืออีกข้างเอื้อมไป...
กึกก กึกกก .... กลไกหยุดลง ทิมหมุนนย้อนกลับ
ให้หมวกเหล็กคลายตัว...
เขาวิ่งไปยังบันได ด้วยมืออีกข้างที่ห้อยร่องแร่ง...
บางสิ่งขวางเขา กับ บันได...

ครืดดดดด ครืดดด....
โซ่ตรวนถูกลากเข้ามาในห้องลิลลี่
พร้อมกับชาย ที่ไร้หัว...
ข้อเท้าของเขาถูกพันธนาการด้วยเชือกโซ่
มันห้อยระโยงระยางติดกับข้อมือทั้งสอง
ในมือของมันมีบางอย่างตั้งอยู่...
พระเจ้าา! หัวมนุษย์...
ดวงตาปูดโปนอัน่ากลัวนั้น
มันเผยอปากเหมือนจะเอ่ยบางอย่างออกมา
"จงเอ่ยปากก จงปลดปล่อยเรา!!"
เธอกลัวเกินกว่าจะเข้าใจความหมาย
"มะ หมายความว่ายังไง ปลดปล่อย.."
ลิลลี่ ถามในขณะที่ถอยหลังไปจนชิดขอบหน้าต่าง
ผีทาสผู้ไร้หัว เคลื่อนกายมาอย่างช้าๆ
" เราถูกทรมาน ถูกจองจำ เราติดอยู่ที่นี่..."
ใบหน้านั้น ราวกับจะร้องไห้..
"เราตายพร้อมกับความเป็นทาส ท่านครอบครองที่นี่...
จงพูดซิว่า ให้เราเป็น อิสระ พูดดด!!"
มันอ้าปากตวาดใส่ลิลลี่ เลือดทะลักออกมาจากปากของมัน
ลิลลี่ นิ่งคิด... เธอกำลังจะแลกทุกสิ่งกับเวลาต่อชีวิตของ ทิม
"แกเอาลูกฉันไปไว้ไหน!" ลิลลี่ จ้องไปที่หัวนั้นอีกครั้ง...
มันแสยะยิ้ม... ราวกับผู้ชนะ...
"เวลาของเด็กนั่นแทบไม่เหลือแล้ว.. หึหึหึ"

ฝูงทาสนับสิบ... ยืนออ อยู่ตรงบันได
มันจ้องมองมายังทิม
ทิม ใช้มือข้างที่เหลือหยิบไฟแช็คออกมา
"พวกแกจะได้ หมกไหม้อยู่ในนี้อีกรอบ"
เขาตวัดไฟแช็คแล้วจ่อไปตรงปลายเชือกเก่าๆ
ที่ห้อยระโยงระยางไปทั่วห้องลับ
ไฟติดแล้ว!! ทิม วิ่งตรลไปยังบันได
ฝ่ากำมือของฝูงทาสที่ไขว่ขว้าตัวเขาไว้
มือข้างเดียวที่เหลือของทิม พยายามอย่างเต็มที่
ควันเริ่มปกคลุมทั่วห้องลับ ทิมกำลังตะกายขึ้น
เขาใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้ว...
แต่ไฟกำลังไหม้ลามมาถึงขาบันไดที่ทิม ปีนขึน!!

ลิลลี่... กำลังลังเลอย่างหนัก
แต่ ทิม กำลังจะตาย...
เธอหลับตาลงพึมพำ...
"เพื่อลูกทิม เพื่อลูก!"
"ฉัน ลิลลี่ เจ้าของที่แห่งนี้..."
รอยยิ้มปรากฏชัดบนใบหน้าของผีทาสผู้ไร้หัว...
"ขอปลดปล่อย..." ลิลลี่กำลังจะพูดประโยคสุดท้าย....
"แม่!! ผมอยู่นี่!!" ทิมตะโกนขึ้น
มันคือวินาทีเดียวกันที่เจ้าผีหัวขาดกำลังลุกเป็นไฟ!
"ทิม... ลูก... ลูกปลอดภัย!"
ลิลลี่ ลุกขึ้นกางมือออกอย่างดีใจ
ทิมวิ่งผ่านตัวเจ้าผีร้าย.. ร่างของมันสลายเหลือเพียงเถ้าถ่าน
สองแม่ลูกโผเข้ากอดกัน...
"ทิม.. แม่นึกว่าจะเสียลูกไปแล้ว..." ลิลลี่กอดทิม
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง...
"โอ้ววว!! ทิมม มือของลูก... มือของลูก"
มือที่ห้อยร่องแรงของทิม ทำให้ ลิลลี่ แทบช็อค
เธอไม่คิดเลยว่าลูกชายหัวดื้อของเธอจะกล้าหาญถึงเพียงนี้..

คืนนั้น...เธอรีบพา ทิม ไปโรงพยาบาล
ทิมมีอาการสำลักตลอดเวลา หมอบอกว่าเขาเสียเลือดมาก
หากมาช้ากว่านี้ ทิม อาจไม่รอด....
บ้านของลิลลี่ ถูกหน่วยดับเพลิงจัดการ
รัฐบาลเข้ารื้อค้น และตรวจดูความเสียหาย
มันถูกระบุในเอกสารว่า เคยเป็นที่จองจำ ทรมานทาส
ของเจ้าของที่เดิม ตั้งแต่ก่อนมีการเลิกทาสในอเมริกาฯ
สำหรับทิม เขาถูกรักษาจนหายดี
แม้มือเทียมนั่น อาจต้องใช้เวลาซักหน่อย
หมอถามทิมว่า "เธอดูไม่กลัวอะไรเลยซินะ หนุ่มน้อย..."
เขายิ้มออกมา และพูดกับหมอด้วยประโยคสั้นๆว่า...ทิม อยู่บนเครื่องทรมาน..

"ผมเป็นฮีโร่ของแม่แล้วฮะ ผมเป็นได้แล้ว!" 

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่ิองสั้น ลำดับที่ 5 : เตียงนอนใหม่ของลูซี่

"ลู... หนูเป็นเด็กดีหรือเปล่าจ๊ะ 
ไหนใครเป็นคนเก่ง ยกมือซิ"
เสียงน่ารักของ อิสซาเบล ดังออกมาจากเครื่องเล่น DVD
สองพ่อลูก ทอม กับ ลูซี่ นั่งเล่นอยู่บนโซฟา 
ทอม กอดลูกสาวตัวน้อยของเขา ไว้ในอ้อมอก
น้ำตาเขาไหลพราก เพราะอิสซาเบล ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่งดงามระหว่างเขากับเธอ
อุบัติเหตุระหว่างการไปพักผ่อนวันหยุด
พรากเธอไปจากครอบครัวชั่วนิรันดร์
"เราจะคิดถึงคุณนะ อิสซาเบล..."
ทอมพูดพร้อมกับส่งจูบให้กับจอทีวี 
มันกำลังฉายภาพของอิสซาเบล อุ้มลูซี่ ในวัยเพียง 4 ขวบ
เธอบรรจงจูบไปที่แก้มของ ลูซี่ เบาๆ...

ลูซี่... นอนหลับไปแล้ว ด้วยความไร้เดียงสาและการเล่นซนมาตลอดทั้งวัน
เด็กน้อยผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลมโต
ในวัย 7 ขวบ เธอควรได้รับความอบอุ่นจากแม่ด้วย
แต่นั่นสายเกินไป...
ทอม โทษตัวเอง ที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่ความสูญเสียครั้งนี้
"ลู พ่อขอโทษนะลูก" 
ทอม ลูบหัวของลูกสาวอย่างเอ็นดู
น้ำตารื้นขึ้นมาในดวงตาทั้งสองข้าง
เขาปิดทีวี เพื่อจะอุ้มลูซี่ไปที่ห้องนอน 
แต่เตียงนอนของลูซี่เก่าเกินไป ขาเตียงพังไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
เธอเคยนอน กับ อิสซาเบล แม่ของเธอมาตลอด
นั่นเพราะทอม มีงานต้องออกนอกเมืองอยู่บ่อยครั้ง
แต่เมื่ออิสซาเบลจากไป ทอม ลาออกจากงาน
เขามาเป็นช่างตัดไม้ และเปิดที่ทำงานในโรงรถที่บ้าน
วันพรุ่งนี้ เขาว่าจะไปดูเตียงนอนมือสองให้กับลูซี่
"พรุ่งนี้พ่อจะหาเตียงนุ่มๆสบายๆ มาให้นะลูก..."
ทอมวางลูซี่ลงบนฟูกที่เพื่อนบ้านใจดีนำมามอบให้
ภาระหนี้สินทำให้เขาขัดสนกว่าที่เป็น...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงประตูบ้านถูกเคาะ ทำให้ทอมสะดุ้งตื่น
เขาพบว่าเผลอหลับไปพร้อมกับลูซี่ 
"นั่นใครครับ" ทอมตะโกนถาม
"ผมดีแลนไงทอม" เสียงชายในวัยเกษียณ ดังขึ้นหน้าประตู
"อ้อครับ คุณดีแลน รอซักครูครับ"
ทอม รีบเดินลงไปเปิดประตูต้อนรับ
"เชิญเข้ามาข้างในก่อนซิครับ คุณดีแลน มีธุระอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?"
ทอมเชื้อเชิญแขก พร้อมกับเดินไปหยิบน้ำชามาต้อนรับ
"ขอบใจนะทอม.." 
ดีแลน กล่าวขณะนั่งลงตรงโต๊ะรับแขก
"ผมรู้มาจาก มากาเรต ว่าคุณกำลังหาเตียงให้ลูซี่อยู่"
"ใช่ครับ ผมว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปดูเตียงมือสองให้แกซักหน่อย"
ทอมพยักหน้ารับ พร้อมกับสีหน้าที่กังวลใจ
"ผมรู้ทอม อะไรๆแย่ลง หลังจาก อิสซาเบล จากไป..."
ดีแลน กล่าวอย่างเข้าใจความรู้สึกของทอม
"พอดีลูกสาวของผมเธอย้ายบ้านใหม่ และเธอมีเตียงมากพอสำหรับทุกคนแล้ว 
บังเอิญว่ามีเตียงเหลืออยู่ เป็นเตียงไม้น่ะ 
แต่มันเป็นของเก่า คุณรังเกียจไหมละ?"
ทอม เงยหน้าขึ้นอย่างมีความหวัง
"โอ้! จริงหรือครับ ไม่เลยครับ มันวิเศษมาก คุณดีแลน"
"งั้นหรือ เยี่ยมเลย เอาละ ผมจะโทรสั่งให้เธอจัดส่งมาให้คุณภายในสองสามวันนะ"
ทอม พยักหน้ารับอย่างยินดี 
เขากล่าวขอบคุณเพื่อบ้านอีกเป็นการใหญ่ ก่อนที่คุณดีแลนจะกลับไป

สามวันต่อมา...
รถบรรทุกของ Fedex มาจอดรออยู่ที่หน้าบ้านของทอม
"Fedex สวัสดีครับ คุณคือ คุณทอม ใช่ไหมครับ"
"ใช่ครับ"
"กรุณาเซ็นชื่อรับของด้วยครับ 
เตียงไม้ ขนาด 7 ฟุต ถูกต้องนะครับ" พนักงานถามพร้อมกับยื่นกระดาษให้
"ใช่ครับ ชอบคุณมากครับ 
กรุณาขนไปไว้ บนชั้นสองให้ด้วยนะครับ"
พนักงานพยักหน้ารับ และทำตามคำขอของ ทอม
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เตียงนอนถูกวางไว้ในห้องนอนของลูซี่
เธอดูชอบมันมาก เธอสำรวจและเดินรอบมันอยู่พักใหญ่
"พ่อซื้อให้หนูเหรอคะ" เด็กน้อยถามอย่างตื่นเต้น
"ใช่แล้วจ๊ะ ถือเป็นของขวัญคริสต์มาสนะลูก"
ลูซี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เธอกระโดดเล่นอยู่บนเตียงพักใหญ่
ตุ๊กตาตัวโปรด และของเล่นมากมายถูกนำไปกองไว้
เตียงใหม่ของลูซี่ ใหญ่พอตัวเลยทีเดียว
เสาสี่ด้าน พร้อมกับมุ้งกันแมลง
มันยังคงอยู่ในสภาพที่ใช้การได้
ทอม มองดูลูกสาวตัวน้อยอย่างสุขใจ
โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า
ได้เซ็นยินยอมรับอะไรเข้ามาในบ้านตัวเอง...

ตกดึกคืนนั้น...
ทอมยังคงจัดการกับงานไม้
อยู่ในโรงรถ เขาต้องทำงานแข่งกับเวลา 
เพราะเจ้าหนี้ให้โอกาสผัดผ่อน ไม่นานนัก
เขามองขึ้นไปยังห้องนอนของลูซี่
เงาบางอย่าง วูบวาบอยู่บนนั้น
ตอนแรกเขาคิดว่าลูซี่คงกำลังเล่นอะไรอยู่
แต่เงานั่นใหญ่เกินกว่าจะเป็นของเด็กตัวเล็กๆ
ทอมวางมือจากงานที่ค้างอยู่
เขาเดินมาเพื่อมองให้ถนัดอีกครั้ง
ผ้าม่านตรงหน้าต่างไหวตามแรงลม
อากาศเย็นๆ ปะทะแก้มของ ทอม..
เขารู้สึกถึงความเย็นบางอย่างที่กัดกินเข้าไปในใจ...

วินาทีนั้น...
บางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าต่างห้องนอน ลูซี่
หญิงสาวผมยาวประบ่า ในชุดผ้าคลุม
กับใบหน้าที่ระบุชัดไม่ได้... 
ไม่ซิเธอไม่มีหน้าเลยต่างหาก!
ต่อหน้าต่อตาของ ทอม 
ห้องนอนของลูซี่ แดงฉานราวกับสีเลือด...

เพล้งงง!!!
เสียงโคมไฟในห้องนอนลูซี่ตก!
พร้อมกับไฟในห้องที่ดับวูบจนมืดสนิท
ทอม ทิ้งเลื่อยในมือ แล้ววิ่งแทบจะในทันที
เป้าหมายคือห้องนอนของลูซี่...
"ลูซี่!! พระเจ้าา! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ!!...

ทอม...
วิ่งเข้าไปในบ้าน ด้วยความเป็นห่วง ลูซี่
"อย่าทำอะไรเธอนะ!!"
เขาร้องโวยวาย ขณะวิ่งขึ้นบันได
ประตูห้องนอนปิดไม่สนิท...
ทอมผลักประตูห้องนอนออกสุดแรง...


ปึ้งงงงงง!
ลูซี่ นอนหลับหันหลังอยู่บนเตียงไม้
ทุกอย่างดูปกติ เว้ยแต่ โคมไฟที่ตกลงมาที่พื้น
มันแตกละเอียด แต่ ลูซี่ กลับนอนโดยไม่รู้สึกตัว
"ลู ลูตื่นมาคุยกับพ่อซิลูก.." ทอมพูดพร้อมกับเขย่าตัวลูกสาว
ลูซี่ ขยี้ตาหันมาหาพ่อ เธอดูหลับสนิทจริงๆ
"มีิอะไรเกิดขึ้นคะ พ่อจะนอนแล้วเหรอ?" ลูซี่เอียงคอถาม
ดวงตากลมโต จ้องมองมายังพ่อ
ทอม โล่งอกที่ทุกอย่างยังเรียบร้อย
แต่นั่นมันอะไรน่ะ ทอมเพิ่งสังเกตเห็นรอยเท้าเรียวเล็ก
ย่ำอยู่รอบเตียงนอนไม้ของ ลูซี่
"นอนต่อเถอะลู พ่อเสร็จงานแล้ว"
ทอม ต้องตัดใจทิ้งงานไปก่อน 
อีกอย่างเขาไม่อยากให้ ลูซี่ ตกใจ
เวลาเดินผ่านไปอย่างเชื่องช้า สำหรับทอม
เขาแทบอยากจะให้พระอาทิตย์ขึ้นเสียเดี๋บวนี้
นาฬิกาบอกเวลา ตีสอง พอดี
ทอมเผลอตัวหลับไป ด้วยความเหน็ดเหนื่อย...

ในห้องนอน...
ที่เหลือเพียงเสียงลมหายใจของสองพ่อลูก
บางสิ่งปรากฏกายอยู่ที่ปลายเตียง
หญิงสาวในชุดผ้าคลุมยาว...
เธอเคลื่อนกายไปหาลูซี่ อย่างเชื่องช้า...
"ลูซี่.. เด็กดี..." เสียงที่แผ่วเบาดังขึ้น
ลูซี่ ยิ้มทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ "ขาาา แม่"
"เราไปเดินเล่นกันไหมจ๊ะ... แค่เราสองคน"
ลูซี่ พยักหน้าอย่างมีความสุข
เธอค่อยๆ ลุกขึ้น ในขณะที่ดวงตาทั้งสองยังคงปิดสนิท
ทอมยังคงนอนอยู่ที่เดิม โดยไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

ลูซี่... 
ในชุดนอนลายสีฟ้าขาว เดินลงมาจากบันได
เธอมาหยุดตรงหน้าประตูบ้านที่เปิดอ้า
"เราจะไปไหนกันคะ..."
เสียงหนึ่งดังตอบ "ไปอยู่กับฉันยังไงละจ๊ะ เด็กดี"
ลูซี่ เดินออกมาตามทางเดินจนถึงรั้วบ้าน
เสียงเอี๊ยดดอ๊าดดด ของประตูรั้วดังขึ้น
และมันปลุกทอมให้ตื่นขึ้น...

"ลู ลูซี่!!" 
ทอม ตื่นขึ้นมาและใช้มือควานหาลูกสาว
แสงจันทร์ส่องเข้ามาพอให้เห็นรำไร
ไม่นะ ลูกสาวตัวน้อยของเขาหายไปไหน
ทอม ลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่าง
ลูซี่ กำลังเปิดรั้วบ้าน เพื่อเดินออกไปตามถนน
ทอม กระโดดลงจากเตียง เขาวิ่งไปไม่กี่อึดใจ
ก็ถึงชั้นล่าง และถึงตัวของลูซี่ ก่อนที่เธอจะหายตัวไป
"พ่อคะ เราลงมาทำอะไรกันคะ" ลูซี่ ลืมตาขึ้น
เธอมองเห็นเหงื่อที่ไหลท่วม และสีหน้าซีดเผือดของพ่อ
"ลู ลูกนอนละเมอนะ เข้าบ้านเถอะลูก" ทอมอุ้มลูกสาวตัวน้อยเข้ามาในบ้าน

ในเวลาแบบนี้...
การนอนหลับดูจะเป็นไปได้ยากแล้วสำหรับทอม
เขาชงนมอุ่นๆให้ ลูซี่ ดื่ม สายตาเขาจ้องมองไปที่ ลูซี่
แต่ไหนแต่ไร ลูซี่ ไม่เคยละเมอมาก่อน ทอมคิด
ลูซี่ หาวขึ้นมาอีกครั้ง เธออยากขึ้นไปนอนต่อ
ทอม ไม่สามารถขัดใจได้ เขาพา ลูซี่ ขึ้นไปนอนบนเตียง
"หลับซะนะ ลู พ่อรักลูกนะ" ทอมบรรจงจูบไปที่หน้าผาก
เขาห่มผ้าให้ ลูซี่ และตัดสินใจจะนั่งเฝ้าเธอตลอดคืนนี้

เคร้งง! เคร้งง! เคร้งง!
เสียงแก้วกระทบกันจากห้องครัวด้านล่างดังขึ้น
ปลุกทอมที่กำลังจะเผลอหลับให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
นี่คือคืนที่ ยาวนานที่สุด ในชีวิต
ทอม มองลูซี่ อย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
แต่ถ้ามันเป็นขโมยจริงๆละ ทอม ต้องลงไปดู
เขาลุกขึ้น อย่างระมัดระวัง
ทอม เดินผ่านประตูห้องนอนออกไปแล้ว
แผ่นหลังของเขารู้สึกเสียววาบบ
หญิงสาวในชุดคลุมยาว ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
พร้อมกับเสียงประตูห้องนอนที่ดัง ปั้งงงงงง!!

ทอม... หันหลังกลับ แต่นั่นยังช้าเกินไป
มันถูกล็อคจากด้านใน!!!
พร้อมกันนั้น เสียงของลูซี่ก็หวีดร้องด้วยความตกใจสุดขีดด
"พ่อขาาาาาาาาาา!!...."

ทอม... พยายามบิดลูกบิดอยู่สองสามครั้ง
แต่เวลาเหมือนจะฆ่าเขาตรงนั้น
เสียงร้องของ ลูซี่ ขาดหายไป
ความกลัวกัดกินใจของเขา
ทอม วิ่งไปที่ห้องเก็บของ เขาหยิบขวานมา 1 อัน
ไม่มีอะไรต้องรอแล้ว ชีวิตของลูซี่สำคัญที่สุด
ตึกกก ตึกกกก เขาจามมันลงไปสองสามครั้ง
ทอม ถีบประตูอย่างแรง จนมันเปิดออก

ภาพที่ปรากฏตรงหน้า...
ทำให้ทอม หมดแรงถือขวานอีกต่อไป
ลูซี่ หายไปแล้ววว
ผ้าม่านถูกลมพัดปลิว หน้าต่างเปิดกว้าง
และรอยเท้านั่น รอยเท้าเล็กๆ เต็มไปหมด
"ลูซี่ ลูกอยู่ไหน ลู ออกมาหาพ่อซิลูก" 
น้ำตาของชายผู้สูญเสียไหลนองออกมา
ทอมทิ้งตัวลงบนเตียงไม้...
แต่แล้วเขารู้สึกถึงบางอย่างใต้ผืนผ้านุ่มๆ
ดุ้บบ ดุ้บบ บางอย่างดิ้นอยู่ภายใต้ผืนผ้า
ทอมรีบคลำดูว่ามันคืออะไร
สิ่งที่เขาจำได้คือข้อมือ คู่เล็กๆ ที่เขาจำได้
"ลู ละ ลูซี่ ลูกอยู่ในนั้น
โอ้ววว ! รอพ่อก่อนลู พ่อจะช่วยลูกออกมา"
ทอม เดินไปหยิบมีดพับ ที่วางอยู่ตรงโต๊ะอ่านหนังสือ
"โอ๊ยยย!" หน้าของทอมกระแทกพื้น เขาล้มลง
เพราะบางอย่างจับขาเขาไว้ มือของใครบางคน
ที่ยื่นออกมาจากใต้เตียง...
"แก...ไอ้ผีชั่ว ปล่อยฉันนะ"
ทอมร้องโวยวาย มือคู่นั้นบีบรัดแน่นขึ้น
"ลูซี่ เป็นของฉัน..." มันพูด

ทอม... 
รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี 
เขาพยายามคลานไปให้ถึงโต๊ะ
สำเร็จจ!! เขาคลานจนหลุดออกจากมือคู่นั้นได้
ทอม หยิบมีดพับมาจากโต๊ะ เขากระโดดขึ้นเตียง
พร้อมกับกรีด อย่างระมัดระวัง
"อ๊อกกกซ์!!" ผ้าม่านตวัดรัดรอบคอของ ทอม
เขาหายใจไม่ออก ยิ่งเขาดิ้น มันยิ่งรัดแน่นขึ้น...
ทอมต้องละมือจากการช่วย ลูซี่ เพื่อปกป้องชีวิตตัวเอง
ทเขาตวัดมีดไปยังผ้านั้นจนมันขาดออกจากกัน
ดวงตาของเขาแดงก่ำ เส้นเลือดฟอยแตก
"ลู ลูกต้องรอดๆๆ" ทอมพึมพำ
บางส่วนของเตียงถูกกรีดออดแล้ว ขาของลูซี่โผล่ออกมา
เขาฉีกผ้าออกให้กว้างยิ่งขึ้น
ลูซี่ ยังคงดิ้น เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ...

เวลา... ของทอมกำลังจะหมด 
เขาผ่าเนื้อผ้าส่วนที่ศีรษะของลูซี่ วางอยู่ตรงนั้น
ใบหน้าขอวเธอโผล่มาให้เห็นแล้ว 
ปากของเธอถูกเศษผ้ายัดเอาไว้
ทอม ทำสำเร็จในที่สุด 
เขาดึงตัว ลูซี่ ออกมาจากเตียงไม้ได้แล้ว
แต่เจ้าผีร้ายไม่รามือ ทอม ถูกผลักอย่างแรงด้วยมือที่มองไม่เห็น
ร่างของเขากระเด็นไปกระแทกกับเสาของเตียง
"พ่อขาาา" ลูซี่ร้องตะโกน
ทอม ฮึดสู้อีกครั้ง เขาพยายามลุกขึ้น...
ทอมตัดสินใจ เข้าไปอุ้มลูซี่
เพื่อหนีลงไปข้างล่าง บันไดเหมือนทอดยาวกว่าเดิม
เงาสีดำติดตามมา
ทันใดนั้น แก้วในห้องครัวนับสิบใบถูกเขวี้ยงลงพื้น
มันแตกละเอียดขวางอยู่ตรงหน้า
ทอมอุ้มลูซี่ แววตาของสาวน้อยจ้องมองพ่อ
"พ่อขา เราจะไปได้ยังไง"
"เราต้องไปได้!" ทอมพูด เขาอุ้มลูซี่ วิ่งเหยียบไปบนเศษแก้ว
ที่แตกละเอียดตามพื้น เลือดไหลนอง
ความเจ็บนั้นทำให้เขาแทบบ้า...

พระอาทิตย์... กำลังจะสาดแสงในไม่ช้า 
ทอมวิ่งกระเพลกๆออกมา อยู่หน้าบ้าน
"เรารอดแล้ว ลู เรารอดแล้ว"
ทอมพูดพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อย
"พ่อขา หนูจะไปตามคนมาช่วยพ่อ" ลูซี่พูด
เธอไม่รอฟังคำอนุญาตอีกแล้ว เธอรู้ว่าพ่อเจ็บมาก
ลูซี่วิ่งออกไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน 
ทอมมองตามอย่างไม่ละสายตา
แสงไฟวูบหนึ่งสาดมา... "ลูซี่!!!"
รถเก็บขยะของเมืองจะวิ่งเข้ามาทุกเช้า
มันช้าไปเสียแล้ว รถเก็บขยะถอยหลังทับลูซี่....
ต่อหน้าต่อตาขอบทอม เลือดสาดกระเซ็นมาถึงรั้วบ้าน
"ม่ายยยย!!!" ทอมร้องตะโกนอย่างคนเสียสติ
"ลูซี่เป็นของฉัน เธอเป็นของฉัน" เสียงของหญิงสาวลอยผ่านมาตามลม...
แต่ทอม สติหลุดเกินกว่าจะรับรู้สิ่งใดแล้ว
ชายผู้สูญสิ้นทุกสิ่ง ในคืนอันหฤโหด นั่งก้มหน้าร้องไห้
จมกองเลือดอยู่หน้ารั้วบ้าน ...

เช้านั้น...ทอมถูกจับส่งโรงพยาบาล
หมอวินิจฉัยว่าเขาเสียสติ กดดันจากความเครียด
ตำรวจสันนิษฐานว่าเขาทำร้ายลูกจนเธอกลัว 
และวิ่งหนีออกจากบ้าน...

จุดจบ...ของทอม... 
อยู่ในโรงพยาบาลโรคจิตของรัฐ
บ้านของเขา และเตียงไม้นั่น ถูกขายทอดตลาด...
ทุกคนพบมันในสภาพที่แทบจะเหมือนใหม่
ไม่มีแม้แต่รอยฉีกขาดให้เห็น...
แต่ที่แน่ๆ ตำรวจพบข้อความที่ถูกสลักด้วยมีด
บนหัวเตียงของลูซี่ มันเขียนไว้ว่า

"ฝันดีนะ ลูซี่..."

วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เรื่องสั้น ลำดับที่ 4 : ความลับของแมรี่

อ๊อดดดดดดด....... 
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น อีกครั้ง
แมรี่ มัวร์ นั่งฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะเรียนหนังสือ
ความอ่อนล้าจากการอดนอนติดต่อกันหลายคืน
ทำให้เธอกลายเป็นคนเซื่องซึมตลอดสัปดาห์
"แมรี่ เลิกเรียนแล้วนะ ไปเดินเล่นกันไหม?"
เสียงใสๆ ของ เจน ฟอร์ส เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของแมรี่ ยื่นหน้าไปถามใกล้ แล้วเอานิ้วสะกิดไปที่ไหล่ของเธอเบาๆ
แมรี่ สะดุ้งขึ้น เธอตื่นมาพบกับดวงตาสีฟ้า ที่จ้องมองอยู่
"เอาซิ ไปเดินเล่นที่ไหนดีละ" 
เธอยิ้มให้เจน พร้อมกับลุกขึ้น
หยิบกระเป๋าสะพายสีชมพู เดินตามหลัง เจน ไป

ทั้งสองเดินมา...
หยุดตรงที่ สวนสาธารณะหลังโรงเรียน
เจน พา แมรี่มานั่งเล่นตรง ที่ประจำของพวกเธอ
ศาลาไม้เล็กๆหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ข้างทาง
เจน เริ่มสิ่งที่จะพูด "แมรี่ เธอเป็นไงบ้าง ฉัรเห็นเธอเหมือนคนอดนอนมาหลายวันแล้ว"
แมรี่ ถอนหายใจ แวบนึงเหมือนเธอจะพูดบางอย่าง
แต่ เจน สังเกตเห็นว่าเธอพยาาม้ก็บมันเอาไว้
"มีเพื่อนบ้านย้ายมาใหม่น่ะ 
พวกเขาส่งเสียงดังน่ารำคาญตลอดคืน ฉันนอนไม่หลับ..."
แม้จะไม่เชื่อรัก แต่ เจน ก็ทำเป็นเข้าใจสิ่งที่ แมรี่ ต้องเจอ
"วันนี้ ฉันไปบ้านเธอได้ไหม?"
คำถามนั้น ของเจน ทำให้ แมรี่ ก้มหน้าลง
"แม่ฉันไม่สบาย ท่านคงไม่อยากให้ใครรบกวน"
พูดเสร็จ แมรี่ หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น "ฉันขอตัวล่ะ เจอกันนะ"
แมรี่ ไม่รอฟังว่า เจน จะพูดอะไรอีกหรือไม่ เธอเดินจากไปอย่างรวดเร็วตามทางเดิน
ทิ้งความสงสัยใคร่รู้ไว้กับ เจน มากยิ่งขึ้น...

"แม่คะ... หนูกลับมาแล้ว.." 
แมรี่ เปิดประตูบ้านพร้อมกับกล่าวคำทักทาย
"แกไปไหนมา ถึงกลับเอาป่านนี้!!"
เสียงตวาด ดังมาจากห้องนั่งเล่น
คุณนายซินเทีย นั่งอยู่บนโซฟาสีน้ำตาล
"ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าถ้าแกอยากไปเรียน แกต้องกลับให้ตรงเวลา งานบ้านรอแกอยู่เยอะแยะ!"
แม่ของแม่รี่... ไม่ซิ คนที่แมรี่ ต้องจำใจเรียกว่าแม่
ดุด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง
เธอเดินเข้ามา แมรี่ ช้าๆพร้อมกับ 
ใช้หลังมือตบไปที่แก้มขวาของแมรี่ เผี๊ยยยย!!
"อย่าได้บังอาจ ทำตัวอวดดีในบ้านนี้ จำไว้นะ แมรี่..."
แม่รี่ น้ำตาไหล เธอทำได้เพียงพยักหน้า
และเดินลงไปห้องใต้ดิน... ห้องนอนของเธอ

อีกฟากของถนน...
เจน สะกดรอยตามแมรี่ อย่างเงียบๆ
เธอไม่เคยมาบ้านของแมรี่มาก่อน และแมรี่ไม่ค่อยเล่าอะไร
หรือพูดถึง แม่ ของเธอให้ เจน ฟังมากนัก
เธอกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมรี่
"ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอปิดบังอะไร แมรี่"
เจน ตั้งใจเอาไว้แบบนั้น 
และเธอจะมาอีกครั้ง ในคืนนี้...

ตกดึก...
เมื่อความมืดคืบคลานปกคลุมท้องฟ้า
แสงไฟจากเทียนไข ถูกจุดขึ้นในบ้านของคุณนายซินเทีย
"แมรี่ เข้ามาใกล้ๆฉันซิ" คุณนายซินเทียเอ่ยปาก
นั่นเปรียบเสมือนคำบัญชาสำหรับ แมรี่
เธอละมือจากอ่างล้างจาน แล้วเดินไปนั่งข้างๆ คุณนายซินเทีย
"คืนนี้เธอพร้อมจะลองอีกครั้งไหมจ๊ะ?"
คุณนายซินเทีย ยิ้มที่มุมปากพร้อมกับเอ่ยถาม แมรี่
"แม่คะ หนูกลัวคะ หนะ หนูนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว"
แมรี่ ก้มหน้าก้มตาอธิบาย แต่นั่นไร้ผล
"แกว่าอะไรนะ?!" เธอเค้นเสียงถาม แมรี่
"คะ... หนูพร้อมคะ"
ยิ้มที่น่ากลัวเผยให้เห็นฟันที่ผิดรูปของคุณนายซินเทีย
"ดีจ๊ะ หลับตาซะ เด็กดี..."
แมรี่ หลับตาลง ตัวของเธอสั่นจนรู้สึกได้
ดวงตาของเธอกลอกไปมา ภายใต้หนังตาสีคล้ำนั่น
"ข้าขอเชิญดวงวิญญาณหากท่านอยู่ที่นี่จงมา จงมา ผ่านร่างของเด็กสาวผู้นี้ สื่อสารกับเราๆ..."
ใช่แล้วคุณนายซินเทีย กำลังทำพิธีบางอย่าง
เจน ซึ่งกำลังแอบมองอยู่ตรงหน้าต่าง เอามืออุดปากตัวเอง
"พระเจ้า! แมรี่..." เธอสงสารแมรี่
แต่ก็รู้ดีว่าตอนนี้เธอยังทำอะไรมากไม่ได้

ร่างของแมรี่...กำลังชักเกร็ง 
เธอกระตุกอย่างรุนแรง 2 - 3 ครั้ง
จนกระทั่งทุกอย่างเงียบไป แมรี่ ยิ้มราวกับไม่่ใช่ตัวเอง
"เธอคือแมรี่ใช่หรือไม่?" คุณนายซินเทีย เอ่ยถาม
แมรี่... หรือ อาจเรียกได้ว่าบางอย่างในตัวแมรี่ ส่ายหน้าช้าๆ
มันยิ้มพร้อมกับชี้มือไปที่หน้าต่าง...
หน้าต่างบ้านเดียวกันที่ เจน แอบดูอยู่...
"มีคน... แอบดู... อยู่ข้างนอก... " มันพูดด้วยเสียงอันแหบพร่า...
เจน ตกใจสุดขีดกับสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน...
และเธอต้องเอาตัวรอด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป!...

คุณนายซินเทีย... 
หยิบมีดทำครัวที่มักอยู่ใกล้มือเธอเสมอ
เธอเดินตรงไปที่หน้าต่าง อย่างช้าๆ
นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่ เจน หยิบท่อนไม้ที่กองอยู่ข้างบ้านของแมรี่มาถือเอาไว้
เสียงเปิดหน้าต่างดังขึ้น ครืดดดด!
พร้อมกับดวงตาแดงก่ำของคุณนายซินเทีย จ้องมอง เจน
อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเธอ
"แกมาทำอะไรที่นี่ พวกชอบสอดรู้!!" คุณนายซินเทียเงื้อมีดในมือ หมายจะแทงคอของเจน
เจน หลับตาสะบัดไม้ออกไป แรงเหวี่ยงกระแทกเข้ากับมือของคุณนายซินเทีย
"โอ๊ยยยย! ฮึ่มมมม.. แก... อีเด็กเหลือขอ!!"
เจน วิ่งออกจากตรงนั้น อย่างไม่คิดชีวิต
ในใจยังคงนึกห่วง แมรี่ เพื่อนของเธอ
แต่แน่ละ เธอต้องเอาตัวรอด ก่อนจะช่วยคนอื่น
ในความเงียบแบบนั้น เธอได้ยินแต่เสียงหัวใจเต้น
และเสียงตะโกนสาปแช่งของเจ้าบ้าน ผู้ไม่ปรารถนาให้ใครมาล่วงรู้ความลับ.


เจน พบว่า...
ตัวเองมาหยุดอยู่ที่สี่แยกแห่งหนึ่ง
เธอเตลิดมาไกลเกินกว่าจะสังเกตว่าวิ่งมาถึงที่ไหน
"แล้วนี่ฉันอยู่ไหนละเนี่ย บ้าเอ้ยย!" เธอสบถอย่างหัวเสีย
แสงไฟรถพุ่งมาจากทางด้านหลัง
เจน หันไปพร้อมกับโบกมือขอความช่วยเหลือ
โชคยังเข้าข้าง คนขับจอดรับเธอ
"จะไปไหนเนี่ยหนู มันดึกมากแล้วนะ"
ชายหนุ่มวัยกลางคนถาม
"คือหนู หนูจะเข้าไปในเมืองนะคะ กรุณาให้หนูติดรถไปด้วยเถอะคะ"
เจน บอกปัดไปก่อน ถ้าเธอเล่าความจริงใครจะเชื่อ
"เอ้าาาๆ มาๆๆ ขึ้นมาเลย ท้ายรถกระบะฉันน่ะ"
เจน ขอบคุณอีกครั้ง พร้อมกับขึ้นรถไป
หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงรถกระบะ พาเจน
มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง แต่ที่นี่ประหลาดมาก
เธอไม่เคยเห็นสถานที่นี้มาก่อน
จริงอยู่ มันมีแสงไฟมีผู้คน มีบ้าน
แต่ทุกคนดุเหมือนไม่สนใจกันมากนัก
จนกระทั่งรถที่ เจน ขออาศัยมาด้วยขับผ่าน
ทุกคนในเมืองดูจะพุ่งความสนใจมาที่เธอเป็นพิเศษ
"เอาละถึงแล้ว เดี๋ยวฉันจะเอารถไปเก็บ เธอเข้าไปนั่งพักในนั้นก่อนนะ" เจ้าของรถกล่าวกับเจน
พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง
"ที่นี่เมืองอะไรนะ ทำไมเราไม่คุ้นเลย..."
เจน นึกสงสัยแต่เธอก็ทำตามที่เจ้าของรถบอก
เธอเข้าไปนั่งรอในร้านอาหาร
บรรยากาศมันดูอึมครึมพิกล
ในขณะที่ความคิดของเธอ เป็นกังวลอยู่กับแมรี่
สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็อยู่ตรงหน้า..

"สวัสดีเจน.." 
เสียงที่คุ้นเคยเอ่ยถาม นั่นเสียง แมรี่ เจน จำมันได้
เธอเงยหน้าแทบจะทันที ใช่แล้ว แมรี่
เพื่อนที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้
เธอเห็น แมรี่ ถูกวิญญาณหญิงชราครอบงำ...
"มะ แมรี่ มันจะเป็นไปได้ยังไง!!"
เจน ตกใจกับถาพตรงหน้า 
แต่เธอก็ดีใจที่พบว่าเพื่ิอนของเธอปลอดภัย
เกินกว่าจะสงสัยอะไรมากไปกว่านี้
ไม่แน่ แมรี่ อาจได้สติ และหนีออกมาทัน
"เธออยากช่วยฉันเหรอ เจน.."
แมรี่ ถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ใช่ซิ ฉันต้องอยากช่วยเธออยู่แล้ว.."
เจน ตอบกลับแทบจะในทันที
"ตามฉันมาหน่อยซิเจน ฉันมีตวามลับจะบอกเธอ..."
แมรี่ ยิ้มให้เจนอีกครั้ง พร้อมกับจับมือของเจน
ราวกับถูกมนต์สะกด เจน พยักหน้าและลุกขึ้น
เดินตาม แมรี่ ออกไปนอกร้าน
แมรี่ ชี้มือไปที่แนวป่ารอบเมือง มันมีทางเดินเล็กๆซ่อนอยู่
"นั่นไงละ มันอยู่ตรงนั้น..."
แมรี่ ชี้มือออกไปให้เจนมองตาม
เจน อาจไม่ทันสังเกต แต่คุณอาจจะเห็น หรือจับพิรุธบางอย่างได้
น้้ำเสียงที่แหบพร่าเป็นห้วงๆ กับเล็บมือสีดำของ แมรี่...

"นี่เป็นความลับเล็กๆ...ระหว่างเรานะ...เจน!"
แมรี่ จูงมือเจนให้ออกห่างจากตัวเมือง
เลาะไปตามทางเดินที่ถูกจัดเตรียมไว้
แต่ทางเดินนั้นนำไปสู่อะไรกันล่ะ ที่รอ เจน กับ แมรี่ อยู่...!!

ระหว่างการเดินทาง...เข้าไปในป่า
เจน สังเกตเห็นหมอกควันบางๆ รายรอบตัวตลอดเวลา
บางครั้งเธอเหมือนได้ยินเสียงกรีดร้อง
เสียงห้ามว่า "อย่าเข้ามา" 
แต่เธอกลับบอกตัวเองว่า "หูฉันคงแว่วไปเอง"
แผ่นหลังของ แมรี่ อยู่ข้างหน้า
เจน ยังคงตั้งใจอย่างมากที่จะช่วยเพื่อนของเธอให้ได้
"เราใกล้ถึงแล้วนะ เจน..."
แมรี่ พูดโดยไม่หันกลับมาคุยกับ เจน
แสงไฟเริ่มมีให้เห็นลางๆ
แต่ที่นี่มันในป่านี่ ใครมาจุดไฟในป่ากันล่ะ เจนคิด
เส้นทางเผยให้เห็นคบไฟจุด อยู่ตามทางเดิน
เหมือนกำลังมีงานใหญ่ของหมู่บ้าน
เสียงผู้คน เสียงร้องรำทำเพลง
"นี่นะเหรอแมรี่ ความลับของเธอ งานฉลองในป่านี่นะ"
แมรี่ หยุดกึก รอยยิ้มที่ถูกปกคลุมด้วยเส้นผมสยายออก
"เธอต่างหากละ เจน เธอต่างหากที่เป็นความลับของฉัน"
สิ้นเสียงพูดอะนแหบพร่าของแมรี่
เจนรู้สึกถึงของแหลม ที่จ่ออยู่ด้านหลัง
"ยัยตัวแสบ... ในที่สุดเราพบกันอีกจนได้"
เจน ตัวเย็นเฉียบราวกับหัวใจถูกจับไปด้วยน้ำแข็ง
เสียงของคุณนายซินเทีย กระซิบอยู่ข้างหูของเธอ
"นี่มันอะไรกันแมรี่ นี่มันอะไรกัน!"
เจน ตะโกนใส่แมรี่ แต่นั่น มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
แมรี่ เดินล่วงหน้าไปแล้ว
"เดินไปซิ เดินตามเพื่อนรักของแกไป"
เจน จำใจเดินตามคำสั่งอันน่ากลัวนั่น

กลางลานโล่งๆ...
ที่ผู้คนกำลังล้อมวง เจน เห็นภาพ ของเด็กสาววัยไล่เลี่ยกับเธอ
ถูกผู้ชายคนหนึ่งคร่อมอยู่บนตัวของเธอ
"นั่นแกจะทำอะไรเธอน่ะ!" เจน ตะโกน
ชายคนนั้น หยุดและหันมามองเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ
"ยังไม่ถึงตาของเธอ สาวน้อย..."
ใบหน้านั่น เธอจำมันได้ ชายวัยกลางคน
ที่ขับรถมาส่งเธอในเมืองนี่!
นี่มันบ้าอะไรกัน ฉันอยู่ที่ไหน...
เจน ถูกกระชากมาตรงลานกว้าง
ชายคนนั้นกำลังข่มขืนเด็กผู้หญิงอย่างบ้าคลั่ง
มันหื่นกระหายราวกับจะฉีกร่างเด็กผู้หญิงออกเป็นชิ้นๆ
เจน ไม่อาจทนดูภาพนั้นได้อีกต่อไป
เธอหลับตาลง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของเด็กสาว
ใช่แล้ว พิธีบูชาปีศาจ ด้วยการเสพสังวาส
ที่เธอเคยอ่านพบในห้องสมุด
"หรือว่านี่คือ...."
"ฉันตั้งใจจะกันเธอออกจากเรื่องนี้มาตลอด..."
เสียงของ แมรี่ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"เธอไม่น่าอยากรู้เลย เจน ฉันขอโทษที่มันเป็นแบบนี้"
แมรี่ ถูก คุณนายซินเทีย จิกหัวลากไปต่อหน้าต่อตาของเธอ
แมรี่ ถูกบังคับให้กลืนบางอย่างลงไป
เธอสำลักมันออกมา ก้อนเลือดทะลักออกจากปากของแมรี่
"กินมันเข้าไป กินเข้าไป" คุณนายซินเทียตะคอกใส่แมรี่
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ท้องของเธอบวมเป่ง
บางอย่างดิ้นอยู่ในนั้น "อ๊าาาาาาาาาห์!!"
แมรี่ ร้องดังลั่น นั่นยิ่งทำให้เสียงโห่ร้องของผู้คนดังยิ่งขึ้น

ในขณะที่ เจน...
กำลังตะลึงกับภาพตรงหน้า เธอก็ถูกจิกหัวลากไป 
ด้วยมือหยาบกร้าน คู่หนึ่ง
"ถึงคิวของเธอแล้ว" ชายวัยกลางคนพูด
เจน ถูกถ่างขาออก เธอโดนแบบที่เด็กสาวโดน
ความเจ็บปวดแสนสาหัส เกินกว่าเธอจะรับไหว
มือของเธอปัดไปทั่วพื้นดินที่ว่างเปล่า
แมรี่ ยังคงร้องด้วยความเจ็บปวด เธอดิ้นไปมา
แขนและขาถูกชายสี่คนจับตรึงเอาไว้
คุณนายซินเทีย เงื้อมีดขึ้นอย่างระมัดระวัง
ฉึกกก! เธอปักมีดลงบนท้องของ แมรี่
คุณนายซินเทีย กรีดท้องของแมรี่ อย่างช่ำชอง
บางอย่างถูกควักออกมาจากท้องของ แมรี่
ตุ้บบๆๆๆ ก้อนเลือดเท่ากำปั้น
เต้นอยู่ในมือของคุณนายซินเทีย
และสำหรับแมรี่ เธอตายแล้ว
ดวงตาที่เปิดค้าง ปากที่อ้ากว้างเหมือนยังขอความช่วยเหลือ

คุณนายซินเทีย...เดินตรงมายัง เจน
"ถือเป็นของขวัญสำหรับเธอนะ ยัยหนู"
คุณนายซินเทีย กำก้อนเนื้อในมือ เธอยัดมันเข้าไปในช่องคลอดของเจน
"ได้โปรด เอามันออกไป เอามันอะ... ออกไป"
ภาพสุดท้ายที่เจนเห็น คือ รอยยิ้มของคุณนายซินเทีย
และกางเขนกลับหัว ที่มีร่างของแมรี่อยู่บนนั้น...
สามปีถัดมา เจน ถูกประกาศว่าเป็นบุคคลสาบสูญ
บ้านของแมรี่ ถูกทิ้งร้าง
ไม่มีใครทราบว่า คุณนายซินเทียย้ายไปที่ไหน...

อ๊อดดดดด...
เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น อีกครั้ง
หญิงสาวผมแดงสยาย นอนหลับฟุบอยู่กับโต๊ะหนังสือ
"เจน เลิกเรียนแล้วนะ วันนี้เธอสัญญาว่าจะพาฉันไปบ้านนี่"
เด็กสาวผมแดง เงยหน้าขึ้นสบตากับเพื่อนใหม่ของเธอ
รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
"ไปซิ วันนี้แม่ของฉัน เตรียมอะไรสนุกๆไว้ให้เราทำเยอะเลย"
"แม่เธอชื่ออะไรนะ เจน" 
เด็กสาวถามเพื่อนสนิทคนใหม่อย่างตื่นเต้น...
เจน เงียบไปซักพัก สายตาของเธอทอดยาวออกไปนอกหน้าต่าง...
ดวงตาสีฟ้าที่เศร้าหมอง เหมือนยังมีความทรงจำบางอย่างถูกขังอยู่ในนั้น...

"แม่ฉันชื่อ... ซินเทีย มัวร์..."

เรื่องสั้น ลำดับที่ 3 : คำสาปของแมทธิว


"เมื่อคุณได้อ่านข้อความนี้...
คุณจะได้รู้จักผมมากยิ่งขึ้น
ผมชื่อ แมทธิว ดีน นี่คือมือถือของผม คุณต้องทำตามข้อความ
ที่ผมพิมพ์ทิ้งไว้ในมือถือเครื่องนี้ ภายใน 7 วัน ถ้าคุณเลือกที่จะไม่ทำ
หรือข้ามข้อใดข้อหนึ่งไป คำสาปจะสัมฤทธิ์ผลทันที..."
ด้วยรักและเชื่อว่าคุณจะทำตาม..."
- แมทธิว -
"ฮ่าๆๆๆๆๆ แกเชื่อเรื่องบ้าๆนี่ไหมละวะ!"
สตีฟ ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ กลางวงเพื่อนๆ ที่ล้อมวงกันดูมือถือเครื่องเก่า ที่สตีฟ ได้มันมาจากร้านในตลาดมืด
"นายไม่เชื่อเหรอ?" เคส เอ่ยถามอย่างไม่สบายใจ

ในบรรดาเพื่อนทั้งสามคนของ สตีฟ
เคส เป็นคนที่คุ้นชินกีบเรื่องลี้ลับมากที่สุด
"บ้าน่าเคส มันก็แค่ข้อความ ของคนบ้า" สตีฟ พูดปนฮา
"แล้วมันสั่งให้นายทำอะไรบ้างละ สตีฟ" โรเจอร์ เอ่ยถาม
"เอาละฟังนี่นะ นี่เป็นข้อความถัดมา..."
"คุณต้องฆ่าสัตว์เล็กๆ 1 ตัว ใช้เหล็กแหลมแทงที่คอของมัน แล้วเอามือถือไปวางไว้ให้ผมได้ยินเสียงลมหายใจสุดท้ายของมัน...เริ่มเดี๋ยวนี้!"
"นายจะทำหรือเปล่าละสตีฟ"
เคน เอ่ยถามด้วยสีหน้าท้าทาย
"ตลกละ ฉันคงไม่ฆ่าแมวในบ้านตามข้อความของหมอนี่หรอก!"
สตีฟ พูดจบก็โยนมือถือทิ้งไป ที่โซฟา ไฟมือถือสว่างขึ้นมา
- คุณมีหนึ่งข้อความใหม่ -
เคน เปิดอ่านอย่างกระวนกระวาย
"สตีฟ นายคิดว่านี่มันตลกใช่หรือเปล่าละ??"
ก่อนที่เคน จะตะโกนบอกสตีฟที่ยืนจิบเบียร์อยู่ริมหน้าต่าง

เพล้งงงงง!!!! 
เสียงกระจกแตก ทุกคนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ร่างของสตีฟ ร่วงจากอพาร์ทเม้นชั้นที่ 8 
"พระเจ้าา! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น" ซีมอน ตะโกนพร้อมกับวิ่งไปที่หน้าต่าง
ภาพที่ทุกคนเห็น คือ ร่างของสตีฟกองอยู่กับพื้น 
เลือดไหลนองเต็มพื้นถนน
มือถือดังขึ้นในมือของ เคน อีกครั้ง...
- คุณมี 1 ข้อความใหม่ -
"สวัสดีเคน ฉันแมทธิว นายสนใจฉันขึ้นมาหรือยังละทีนี้!?"
เคน เขวี้ยงมือถือออกไปให้พ้นมือ
ด้วยความตกใจสุดขีดกับข้อความที่อยู่ตรงหน้า
เคส เคน และ ซีมอน ต่างรู้สึกว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องบ้าๆ แบบที่สตีฟพูดอีกต่อไปแล้ว...
"ฉันจะทำยังไงดีละ เคส" เคน หันไปหาเพื่อนสาวอย่างลนลาน
พร้อมกับเดินไปหยิบข้อความนั้นให้เคส อ่านต่อ
"ใจเย็นๆนะ เคน นายคงต้องทำตามข้อความนี้ไปก่อน" เคสพูด
"ฉันจะไปปรึกษาป้าเจน ป้าคลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้..."
ทันที่ที่เคสพูดจบ ไฟในห้องดับลง เสียงรถตำรวจดังไกลๆอยู่ข้างล่าง
ทุกคนสาบานพร้อมกันว่าได้ยินเสียงบางอย่างที่น่าขนลุก
"สวัสดีเพื่อนใหม่ของฉัน...."

โดยไม่ได้นัดหมาย...
ทั้งหมดวิ่งไปที่ประตูห้องของสตีฟ
เคน ทิ้งมือถือของแมทธิว ไว้บนโซฟา
ถ้าคุณอยู่ในห้องของสตีฟตอนนี้
คุณจะได้เห็นไฟสว่างวาบกระพริบ ติดๆดับๆ อยู่อย่างนั้น
ราวกับว่ามันมีเรื่องสนุกๆ ใหม่ๆ ให้ทำอีกแล้ว...

หลังจากให้การกับตำรวจแล้ว...
ทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับบ้าน
เคน อยู่ในสถานะที่หนักใจที่สุด 
เขาจำต้องเอามือถือต้องสาปของแมทธิว กลับมาบ้านด้วย
"บ้าน่า ฉันต้องฆ่าอะไรซักอย่างเหรอเนี่ย!!"
เสียงสุนัขข้างบ้านเห่าดังขึ้นทำลายความคิดฟุ้งซ่านของเขา
"แก! ไอ้ตัวร้าย ฉันรำคาญแกมานานแล้ว.. ดีละ!"

คืนนั้น... 
คน ย่องไปข้างบ้าน เขาโยนชิ้นเนื้อให้หมาเคราะห์ร้าย
มันงับไปกินอย่างไม่ลังเล ยานอนหลับชนิดอ่อนถูกผสมไป
มันมีอาการเซื่องซึมในไม่กี่นาทีต่อมา
เคน อุ้มมันมาอย่างระมัดระวัง
เขาพามันไปยังโรงรถ พร้อมกับเหล็กแหลม 1 อัน
เคน วางมือถือลงใกล้ๆกับ หมาตัวนั้น
"ฉันขอโทษนะ ที่ต้องทำกับแกแบบนี้"
สิ้นคำนั้น เขาแทงเหล็กแหลมไปที่คอของมัน
เสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของสัตว์ตัวเล็กๆ ส่งผ่านไปยังมือถือต้องสาปของแมทธิว....
และนี่คือข้อความถัดไปที่ เคน เปิดอ่าน
"คุณต้องลักพาตัวเด็กผู้หญิงอายุไม่เกิน 10 ปี
แล้วแขวนคอเธอไว้กับต้นไม้กลางสวนสาธารณะ...
เริ่มเดี๋ยวนี้!"
"นายบ้าหรือเปล่า นะ.. นายจะให้ฉันฆ่าเด็กผู้หญิงเนี่ยนะ"
เคน กังวลกับภารกิจต่อไปของเขา
กริ๊งงง.... เสียงกดกริ่ง มีคนมาหน้าบ้าน
เคน เดินออกมา เคส ยืนรออยู่อย่างกระวนกระวาย
"โอ้วว ขอบคุณพระเจ้า เธอหยุดมันได้ใช่ไหมเคส"
เคน ละล่ำละลักพูดด้วยความดีใจ พร้อมกับให้ เคส อ่านข้อความภารกิจถัดไปที่แมทธิวให้ทำ
"นี่มันบ้ามากนะเคน ป้าบอกว่าเราต้องสืบหาว่าแมทธิวเป็นใคร
และเบาะแสต่อไป คือ ทีนี่" เคส ชี้ยื่นหนังสือพิมพ์ฉบับสี่ปีก่อนให้เคน อ่าน
"แมทธิว ดีน เด็กหนุ่มผู้ต้องสงสัยฆ่าพ่อกับแม่ของตัวเอง
ผูกคอตายปริศนาในห้องขังก่อนวันขึ้นศาล"
หนังสือพิมพ์ขึ้นภาพเด็กผู้ชายที่มีรอยกระเต็มหน้า นัยน์ตาสีฟ้าที่ดูเศร้าโศก กับทรงผมที่เป็นลอนไม่เข้ารูปของเขา
"แต่คำสาปกำลังเริ่มขึ้นฉันต้องทำก่อนที่มันจะฆ่าฉัน!!"
เคน พูดอย่างไม่สบายใจ เขาทั้งกลัวและลังเล ในตอนนี้
"นายต้องพูดว่าฉันจะทำ อย่างน้อยเพื่อถ่วงเวลา"
เคส ให้ความเชื่อมั่น
"คืนนี้เธออยู่กับฉันนะเคส" เคน ขอร้อง
"ได้ซิ ฉันนัดซีมอน ให้มาด้วยคืนนี้"

เคน ยิ้มได้อีกครั้ง เขาจัดการฝังศพของหมาน้อยไว้หลังบ้าน
อีกครึ่งชั่วโมงจากนั้น ซีมอน ตามมาสมทบ

ค่ำคืนยาวนาน...
ราวกับมันมีซัก 24 ชั่วโมง
เคน หลับไม่ลง มือถือของแมทธิว วางอยู่อย่างสงบ
บนโต๊ะอ่านหนังสือของเขา
เคส และ ซีมอน นั่งคุยกันเรื่องการตามหาที่อยู่ของแมทธิว
ทั้งสองดูซีเรียสมาก เพราะต่างรู้ดีว่าชะตากรรมของ เคน กำลังร่อแร่
"เอาละ ฟังนะ เราต้องไปกันคืนนี้!!" เคส พูดทำลายความเงียบ
ทั้งสามคนมองหน้ากัน น่ันแปลว่า ตกลง
ทั้งหมดออกเดินทางด้วยรถของ เคน ที่พ่อซื้อไว้ให้
จุดหมายคือ ที่อยู่ของแมทธิว ดีน
ตามข้อมูลจาก Google
และแน่นอน เคน หยิบมือถือต้องสาปเครื่องนั้นมาด้วย

หนึ่งชั่วโมงถัดมา... 
ทั้งสามมาถึงยังบ้านแถบชานเมือง
ใกล้กับรัฐคอนเนคติกัล สภาพมันดูเก่า และร้างมาหลายปี
"ทีนี่ละ บ้านของเขา..." เคส พูด
ทั้งสามลงมาจากรถและตัดสินใจบุกเข้าไป
เพื่อจบเรื่องหลอนๆนี่ซะ
และนั่นมันเหมือนทำให้แมทธิว รู้ตัว
มือถือในกระเป๋าเสื้อแจ็คเกตของเคนสั่นขึ้นอีกครั้ง
- คุณมี 1 ข้อความใหม่ -
เคน กลั้นใจเปิดอ่านมัน ด้วยใจอันสั่นระริก...

ฉันจะฆ่าทุกคน...
ในบ้านของนาย... เคน"
มือถือตกลงพื้นอย่างไม่รู้ตัว เคนกระโดดขึ้นรถ
เขาไม่สนใจ เคส กับ ซีมอน ที่ยืนรออยู่หน้าบ้านของแมทธิว
ทั้งสองมองหน้ากันและรู้แน่ว่า แมทธิว กำลังจะทำบางอย่าง
เคน ชับรถออกไปด้วยความเร็ว ใจเขาอยู่ที่คนในครอบครัว
โครมมมมมม!!!! เสียงรถถูกชนอย่างแรง ต่อหน้าต่อตา เคส และ ซีมอน เคนขับไม่พ้นทางรถไฟ สัญญาณเตือนไม่ทำงาน
ไใ้กั้นไม่ลงใาอย่างที่มันควรเป็น ไฟลุกไหม้ท่วมตัวรถ
พร้อมกับ เคน ที่อยู่ในนั้น
เคส และ ซีมอน ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า
เคส วิ่งไปหยิบมือถือของแมทธิว แล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างไม่ลังเลอีกต่อไป
"เคส เราจะเริ่มจากตรงไหนดีละ" ซีมอนถาม
"ห้องนอนของเขาไงละ ทีที่ความทรงจำของเขาวนเวียนอยู่"
ทั้งสองคนพาตัวเองขึ้ยไปบนห้องนอย ที่มีกระดาษโน้ตสีขาวติดเทปกาวแปะอยู่หน้าห้องว่า
"ผู้ไม่มีกิจ จงออกไป!!" ลงชื่อ แมทธิว ดีน
เคส เอื้อมมือไปบิด ลูกบิดประตู ที่เต็มไปด้วยฝุ่นนั่น
ประตูแง้มออก เผยให้เห็นวภาพภายในห้องนอน ของแมทธิว
ทั้งห้องถูกทาด้วยสีดำ มีคราบเลือด ป้ายไว้ตามหน้าต่าง
กลิ่นเหม็นโชยมาเมื่ออากาศวิ่งเข้าไปกระทบ
ในนั้น เคส ชี้ไปที่ห้องเก็บของในห้องแมทธิว
ซีมอน เปิดเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
พระเจ้า!! ศพ!! ใช่แล้ว ศพของเด็กเล็กๆ ถูกพันไว้ด้วยผ้าขาวคล้ายๆกับ มัมมี่ นี่มันอะไรกัน
แมทธิว ทำสิ่งนี้เหรอ

ตึ้งง ตึ้ง ตึ้งงง...
เสียงดังมาจากชั้นล่างทำให้ทั้งสองสะดุ้งสุดตัว 
"ลงไปดูกันเถอะ" เคส เอ่ยชวน ในมือเธอกำไฟฉายไว้แน่น
พอๆกันกับ ซีมอน ในตอนนี้
และภาพที่เกิดชึ้นตรงหน้าทำให้ ทั้งสองคนแทบช็อค
ข้างล่าง เขาเห็นเด็กผู้ชายผมยุ่งเป็นลอน ถูกชายคนหนึ่งจับมัดมือมัดเท้า
"แก มันนรกส่งมาเกิด แกกับห้องนอนพิลึกๆของแก"
ผู้ชายคนนั้นเอา แส้ เฆี่ยนไปที่หลังของแมทธิว
ไม่มีแม้แต่น้ำตาจากเด็กผู้ชายคนนั้น สิ่งเดียวที่เขาพูด คือ
"ฉันจะสาปแก วิญญาณของแก"
เสียงแส้ถูกฟาดลงอีกครั้ง บนหลังของเด็กชาย
เหมือนเขารู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่ เด็กชายเงยหน้าขึ้นมามอง เคส
และซีมอน ที่ยืนตะลึงอยู่ตรงบันได
เคส ไม่มีโอกาสอีกต่อไป เธอต้องทำอะไรซักอย่าง
เธอล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เครื่องรางชิ้นเล็กๆ ของป้าที่ให้เธอไว้ติดตัว ดูอุ่นขึ้น
เมื่อเข้ามาใกล้ สิ่งเร้นลับ
เธอพันมันเข้ากับมือถือต้องสาปของ แมทธิว
"อ๊ากกกกกซ์ ยายแม่มด แกทำบ้าอะไร!!"
เสียงเกรียวกราดของแมทธิว ดังขึ้น...
เคส ดึงมือพา ซีมอน เข้าไปในห้องนอนของแมทธิว
พร้อมกับปิดล็อกจากข้างใน
"ซีมอน ฉันต้องทำลาบมือถือนี่ มันเป็นของต้องสาป"
เคส ยื่นมือถือให้ ซีมอน เธอต้องหลับตาลงซะ
ซีมอน รับมาอย่างลังเล เขาไม่รู้ว่าเคส จะทำอะไร
ในช่วงเวลานั้น เขาได้ยินเสียงเคส ท่องบทสวดภาษาประหลาดๆ มันฟังเหมือนเสียงสวดขับไล่ของยิปซีโบราณ

อากาศภายในบ้าน...
เย็นชึ้นมากสำหรับ ซีมอน นั่นกระตุ้นความอยากรู้ของเขา
ซีมอน เผลอตัวลืมตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาตกใจสุดขีเ
เคส ใลหน้าเต็ทไปด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปน ราวกับคนแก่
เธอกำลังขัดขืนบางสิ่ง และมือถือของแมทธิวในมือซีมอน
ก็กำลังร้าวอย่างหาสาเหตุไม่ได้
"เชื่อฉัน ซีมอน เธอต้องเชื่อใจฉัน!!"
เคส ตะโกนอีกครั้ง ซีมอนหลับตาลง "ปามันเช้าไปในห้องเก็บของนั่นซะ!" เคสสั่ง
สิ้นเสียงนั้น ซีมอน ปามือถือต้องสาปเข้าไปในห้อง
้เขาลืมตาขึ้นและเห็นเด็กผู้หญิงวัยไล่เลียกันสิบกว่าคน
ส่งยิ้มอันน่าสยองขวัญมาให้ เหมือนพวกเธอรอเวลานี้มานาน
เปลวไฟสีน้ำเงินลุกไหม้ขึ้น ในห้องๆนั้น
พร้อมกันกับร่างของ เคส ที่ลอยขึ้นเหนือพื้นห้อง
ต่อหน้าต่อตาของ ซีมอน ร่างของเคส ถูกเหวี่ยงไปมา
กระแทกกับผนัง และสิ่งต่างๆในห้อง
เลือดทะลักออกมาจากปากของ เคส
"ออกไปซะ ซีมอน ออกไปจากที่นี่!!"
ซีมอน ผงะถอยหลัง เขาชนเข้ากับบางอย่าง
ใบหน้าอันบูดเบี้ยวของ แมทธิว ดีน อยู่ตรงหน้า
"ไปไหนละเพื่อนใหม่ ที่นี่สนุกนะ อยู่ด้วยกันซิ.."
ซีมอน หลับตา เขาทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของ เคส
พระเจ้า! ฉันก้าวขาไม่ได้ ซีมอนโวยวาย
เคส แน่นิ่งไปแล้ว ซีมอน รวบรวมความกล้าอีกครั้ง
เขาก้าวขาได้แล้ว แต่มันเร็วเกินตั้งตัว
เขาพลัดตกจากบนได กระแทกสู่พื้นไม้ข้างล่าง
วินาทีนั้น ซีมอน สติของเขาวูบดับไป...

เขารู้สึกตัวอีกครั้ง...
ในห้องสีขาวๆห้องหนึ่ง
"ที่นี่ที่ไหน" เขาพูดออดมาอย่างยากลำบาก
"สวัสดีคะ คุณซีมอน คุณปลอดภัยคะ ที่นี่โรงพยาบาล 
คอของคุณได้รับการกระทบกระเทอนอย่าเพิ่งขยับมากคะ"
ซีมอน เหลือบตามองไปรอบ อย่างยากลำบาก
"เราเจอมือถือเครื่องนี้ตกอยู่ตอนที่มีคนไปพบคุณคะ"
คำบอกเล่านั้น ทำให้ชีพจรเขาเต้นรัว
"วะ ว่า ว่าอะไรนะครับ..." 
"นี่คะมือถือของคุณ" มือถือเครื่องเดิมที่เขาจำมันได้
ถูกนางพยาบาลนำมาวางไว้ข้างเตียงคนไข้...
ซีมอน ไม่รีรอจะฟังอะไรอีกต่อไปแล้ว
"คุณคะ อย่าคะ คุณซีมอนนน!!!"
สิ้นเสียงร้องนางพยาบาล ร่างของเขากระแทกกับหลังคารถ
ที่จอดอยู่ข้างล่างโรงพยาบาลอย่างจัง
ซีมอน ตายแล้ว... เขาตายคาที่!
ทิ้งไว้เพียงปริศนาการฆ่าตัวตาย
และมือถือที่ยังไม่มีใคร... ยอมรับมันไว้ในครอบครอง...

มือถือสั่นอีกครั้ง ข้างเตียงคนไข้...
- คุณมี 1 ข้อความใหม่ -

"สวัสดีเพื่อนใหม่ ฉันไง แมทธิว ดีน..."